เขียนโปรแกรมภาษาซี รับค่าตัวเลข
โปรแกรมภาษาซีที่เขียนมาในบทความนี้จะเป็นโปรแกรมที่ใช้ในการรับค่าตัวเลขจากผู้ใช้ โดยโปรแกรมจะทำการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่รับเข้ามา และดำเนินการตามข้อกำหนดที่กำหนดไว้ สุดท้ายโปรแกรมจะแสดงผลลัพธ์ที่ได้จากการดำเนินการของโปรแกรม
กำหนดฟังก์ชันและตัวแปรที่จำเป็นในการรับค่าตัวเลข:
1. ฟังก์ชัน `main`: เป็นฟังก์ชันหลักของโปรแกรม ซึ่งจะทำหน้าที่เรียกใช้ฟังก์ชันอื่น ๆ และดำเนินการหลักของโปรแกรม
2. ฟังก์ชัน `inputNumber`: เป็นฟังก์ชันที่ใช้ในการรับค่าตัวเลขจากผู้ใช้ โดยมีรูปแบบดังนี้
“`c
int inputNumber() {
int number;
printf(“กรุณากรอกตัวเลข: “);
scanf(“%d”, &number);
return number;
}
“`
ในฟังก์ชันนี้ เราใช้ฟังก์ชัน `scanf` เพื่อรับค่าตัวเลขที่ผู้ใช้กรอกเข้ามาผ่านทางคีย์บอร์ด และคืนค่าตัวเลขที่ได้รับกลับไป
3. ตัวแปร `number`: เป็นตัวแปรที่ใช้ในการเก็บค่าตัวเลขที่ผู้ใช้กรอกเข้ามา
รับค่าตัวเลขจากผู้ใช้และทำการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล:
ในการรับค่าตัวเลขจากผู้ใช้เราจะใช้ฟังก์ชัน `inputNumber` เพื่อรับค่าตัวเลข และใช้การตรวจสอบเงื่อนไขเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ถูกรับเข้ามา
ตัวอย่างโค้ดเพื่อรับค่าตัวเลขจากผู้ใช้และทำการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล:
“`c
int main() {
int number = inputNumber();
if (number > 0) {
printf(“ค่าที่รับเข้ามาเป็นจำนวนเต็มบวก\n”);
} else if (number < 0) {
printf("ค่าที่รับเข้ามาเป็นจำนวนเต็มลบ\n");
} else {
printf("ค่าที่รับเข้ามาเป็นศูนย์\n");
}
return 0;
}
```
จากโค้ดด้านบน เมื่อเรารันโปรแกรม เราจะได้ผลลัพธ์ที่แสดงว่าค่าที่รับเข้ามาเป็นจำนวนเต็มบวก จำนวนเต็มลบ หรือศูนย์ ตามค่าที่ผู้ใช้กรอกเข้ามา
แสดงผลลัพธ์ที่ได้จากการดำเนินการของโปรแกรม:
เมื่อโปรแกรมรับค่าตัวเลขจากผู้ใช้และทำการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลเสร็จสิ้น โปรแกรมจะทำการแสดงผลลัพธ์ที่ได้
ตัวอย่างผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้น:
```
กรุณากรอกตัวเลข: 10
ค่าที่รับเข้ามาเป็นจำนวนเต็มบวก
```
หากผู้ใช้ต้องการรับค่าตัวเลขอีกครั้ง เราสามารถเรียกใช้ฟังก์ชัน `inputNumber` อีกครั้งได้ ดังตัวอย่างโค้ดต่อไปนี้:
```c
int main() {
int number1 = inputNumber();
int number2 = inputNumber();
printf("ค่าที่รับเข้ามาครั้งที่หนึ่ง: %d\n", number1);
printf("ค่าที่รับเข้ามาครั้งที่สอง: %d\n", number2);
return 0;
}
```
ในตัวอย่างข้างต้น เมื่อเรารันโปรแกรม เราจะได้ผลลัพธ์ที่แสดงค่าของตัวเลขที่รับเข้ามาทั้งสองครั้ง
นอกจากนี้ยังมีความถี่ของคำถามที่พบบ่อย (FAQs) ที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาที่พบบ่อยในการเขียนโปรแกรมภาษาซีเมื่อรับค่าตัวเลข ดังนี้:
คำถามที่ 1: หากโปรแกรมรันแล้วเกิดข้อผิดพลาด "warning: format '%d' expects argument of type 'int*', but argument 2 has type 'int'" เกิดจากอะไรและจะแก้ไขได้อย่างไร?
คำตอบ: ข้อผิดพลาดเกิดจากการใช้เครื่องหมาย `&` ในการจัดการกับตัวแปรที่เป็นแบบเลขจำนวนเต็ม (`int`) ในฟังก์ชัน `scanf` โดยในภาษาซี เราต้องใช้เครื่องหมาย `&` เพื่อรับค่าจากตัวแปรที่เป็นแบบ Pointer (`int*`) เมื่อใช้เครื่องหมาย `&` กับตัวแปรที่เป็นแบบเลขจำนวนเต็ม โปรแกรมจะเกิดข้อผิดพลาดดังกล่าว
โค้ดที่ถูกต้องอาจมีลักษณะดังนี้:
```c
int main() {
int number;
printf("กรุณากรอกตัวเลข: ");
scanf("%d", &number);
printf("ค่าที่รับเข้ามาคือ: %d\n", number);
return 0;
}
```
คำถามที่ 2: หากโปรแกรมรับค่าตัวเลขและทำการคูณกัน มีวิธีใดที่เราสามารถควบคุมการใส่ค่าที่ถูกต้องได้?
คำตอบ: เราสามารถใช้การตรวจสอบเงื่อนไขเพื่อตรวจสอบว่าค่าที่รับเข้ามาอยู่ในช่วงที่เราต้องการหรือไม่ และถ้าไม่ใช่เราสามารถขอให้ผู้ใช้ป้อนค่าใหม่อีกครั้ง โดยใช้ลูป `do-while` หรือ `while`
ตัวอย่างโค้ดแสดงการใช้งานลูป `do-while` เพื่อควบคุมการใส่ค่าที่ถูกต้อง:
```c
#include
int main() {
int number;
do {
printf(“กรุณากรอกตัวเลขที่มีค่ามากกว่า 0: “);
scanf(“%d”, &number);
} while (number <= 0);
printf("ค่าที่รับเข้ามาคือ: %d\n", number);
return 0;
}
```
โค้ดด้านบนจะทำการรับค่าตัวเลขจากผู้ใช้ และทำการตรวจสอบว่าค่าที่รับเข้ามามีค่ามากกว่า 0 หากค่าที่รับมีค่าน้อยกว่าหรือเท่ากับ 0 โปรแกรมจะทำการขอให้ผู้ใช้ป้อนค่าใหม่ จนกว่าจะได้ค่าที่ถูกต้อง
คำถามที่ 3: หากต้องการรับค่าตัวเลขจำนวนมาก (เช่น 10 ค่า) เราควรทำอย่างไร?
คำตอบ: เราสามารถใช้ลูป `for` เพื่อรับค่าตัวเลขจำนวนมากได้ โดยใช้ตัวแปรนับเพื่อเก็บค่าตัวเลขที่รับเข้ามา และรันลูปเป็นจำนวนครั้งที่ต้องการให้ผู้ใช้ป้อนค่า
ตัวอย่างโค้ดแสดงการใช้งานลูป `for` เพื่อรับค่าตัวเลขจำนวนมาก:
```c
#include
int main() {
int number;
for (int i = 0; i < 10; i++) { printf("กรุณากรอกตัวเลขครั้งที่ %d: ", i+1); scanf("%d", &number); printf("ค่าที่รับเข้ามาคือ: %d\n", number); } return 0; } ``` โค้ดด้านบนจะใช้ลูป `for` รัน 10 รอบ เพื่อรับค่าตัวเลขและแสดงผลลัพธ์ที่ได้ สำหรับแต่ละรอบของลูป เราจะขอให้ผู้ใช้ป้อนค่าตัวเลขและแสดงผลออกทางหน้าจอ คำถามที่ 4:
[ตอนที่ 6] ฟังก์ชันรับค่าและแสดงค่า ในภาษา C
คำสำคัญที่ผู้ใช้ค้นหา: เขียนโปรแกรมภาษาซี รับค่าตัวเลข เขียนโปรแกรมรับค่าตัวเลข 5 จํานวน, เขียนโปรแกรมรับค่าตัวเลข 3 จํานวน, เขียนโปรแกรมรับค่าตัวเลข 2 จํานวน c++, เขียนโปรแกรมภาษาซี บวก ลบ คูณ หาร, โปรแกรมรับค่าตัวเลข c++, เขียนโปรแกรมบวกเลข 1 ถึง 10 c++, เขียนโปรแกรมหาผลรวม, เขียนโปรแกรมรับค่าตัวเลข 2 จํานวน
รูปภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ เขียนโปรแกรมภาษาซี รับค่าตัวเลข
![[ตอนที่ 6] ฟังก์ชันรับค่าและแสดงค่า ในภาษา C [ตอนที่ 6] ฟังก์ชันรับค่าและแสดงค่า ในภาษา C](https://tuekhangduong.com/wp-content/uploads/2023/07/hqdefault-2189.jpg)
หมวดหมู่: Top 64 เขียนโปรแกรมภาษาซี รับค่าตัวเลข
ดูเพิ่มเติมที่นี่: tuekhangduong.com
เขียนโปรแกรมรับค่าตัวเลข 5 จํานวน
การเขียนโปรแกรมรับค่าตัวเลข 5 จำนวนเป็นหนึ่งในสิ่งที่นักพัฒนาโปรแกรมต้องทำเป็นรูปแบบซับซ้อนอย่างหนึ่ง เนื่องจากต้องคำนวณการรับค่าตัวเลข 5 จำนวนและแสดงผลออกทางหน้าจอ การเขียนโปรแกรมที่รับค่าตัวเลข 5 จำนวนจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถป้อนข้อมูลเข้าสู่โปรแกรมได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้ในบทความนี้เราจะพูดถึงวิธีการเขียนโปรแกรมรับค่าตัวเลข 5 จำนวนในภาษาไพธอน (Python) ซึ่งเป็นภาษาโปรแกรมที่นิยมใช้ในการพัฒนาโปรแกรมมากที่สุดในปัจจุบัน
ก่อนที่จะเริ่มเขียนโปรแกรม คุณต้องติดตั้ง Python บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณก่อน คุณสามารถดาวน์โหลด Python จากเว็บไซต์ https://www.python.org/downloads/ และติดตั้งตามขั้นตอนที่ระบุ
หลังจากติดตั้ง Python เรียบร้อยแล้ว เราสามารถเริ่มเขียนโปรแกรมของเราได้
เริ่มต้นด้วยการประกาศตัวแปรที่เก็บค่าตัวเลข 5 จำนวน ซึ่งเราสามารถทำได้โดยใช้ฟังก์ชัน input() ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่ใช้สำหรับรับข้อมูลจากผู้ใช้ โดยแต่ละตัวแปรจะมีชื่อแบบประเภทแบบกำหนดเอง ในที่นี้ เราจะตั้งชื่อตัวแปรตามลำดับตัวเลขโดยใช้ชื่อตัวแปร num1, num2, num3, num4, และ num5
ตัวอย่างโปรแกรม:
“`python
num1 = int(input(“ป้อนตัวเลขที่ 1: “))
num2 = int(input(“ป้อนตัวเลขที่ 2: “))
num3 = int(input(“ป้อนตัวเลขที่ 3: “))
num4 = int(input(“ป้อนตัวเลขที่ 4: “))
num5 = int(input(“ป้อนตัวเลขที่ 5: “))
“`
ในโปรแกรมตัวอย่างข้างต้น เราใช้ฟังก์ชัน int() เพื่อแปลงค่าที่รับเข้ามาจากฟังก์ชัน input() เป็นจำนวนเต็ม เพื่อให้เราสามารถทำการคำนวณได้อย่างถูกต้อง
หลังจากที่เราได้ทำการรับค่าตัวเลข 5 จำนวนแล้ว เราสามารถนำตัวแปรที่รับค่ามาได้เช่นกัน เพื่อทำการประมวลผลต่อไป เช่น การหาผลรวม การหาค่าเฉลี่ย หรือ การหาค่าต่ำสุดและสูงสุดของตัวเลขทั้งหมด
ตัวอย่างโปรแกรม:
“`python
total = num1 + num2 + num3 + num4 + num5
average = total / 5
minimum = min(num1, num2, num3, num4, num5)
maximum = max(num1, num2, num3, num4, num5)
“`
ในโปรแกรมตัวอย่างข้างต้น เราใช้ฟังก์ชัน sum() เพื่อหาผลรวมของตัวแปรทั้งหมด ฟังก์ชัน min() เพื่อหาค่าต่ำสุด และฟังก์ชัน max() เพื่อหาค่าสูงสุดของตัวแปรทั้งหมด
เมื่อเราได้ทำการประมวลผลแล้ว เราสามารถแสดงผลลัพธ์ออกทางหน้าจอได้โดยใช้ฟังก์ชัน print() เพื่อทำการพิมพ์ข้อความออกทางหน้าจอ ดังตัวอย่างโปรแกรมข้างล่าง:
“`python
print(“ผลรวมของตัวเลขทั้งหมดคือ:”, total)
print(“ค่าเฉลี่ยของตัวเลขทั้งหมดคือ:”, average)
print(“ค่าต่ำสุดของตัวเลขทั้งหมดคือ:”, minimum)
print(“ค่าสูงสุดของตัวเลขทั้งหมดคือ:”, maximum)
“`
ขั้นตอนสุดท้ายในการเขียนโปรแกรมรับค่าตัวเลข 5 จำนวนคือการรันโปรแกรมที่เราเขียนขึ้นด้วย Python เราสามารถรันโปรแกรมได้โดยเปิด Command Prompt (หากใช้ Windows) หรือ Terminal (หากใช้ macOS หรือ Linux) แล้วใช้คำสั่งเขียนชื่อไฟล์โปรแกรมตามด้วยนามสกุลไฟล์ .py เช่น python program.py
FAQs:
1. จำเป็นต้องใช้ฟังก์ชัน int() เพื่อแปลงค่าที่รับเข้ามาเป็นจำนวนเต็มไหม?
เราใช้ฟังก์ชัน int() เพื่อแปลงค่าที่รับเข้ามาจากฟังก์ชัน input() เป็นจำนวนเต็มเพื่อให้โปรแกรมสามารถทำการคำนวณได้อย่างถูกต้อง ถ้าไม่ทำการแปลงค่า เราจะไม่สามารถทำการคำนวณได้ เนื่องจากค่าที่ได้จากฟังก์ชัน input() เป็นข้อความ
2. สามารถเปลี่ยนจำนวนตัวเลขที่รับได้หรือไม่?
ใช่ คุณสามารถปรับปรุงโปรแกรมให้รับค่าตัวเลขได้มากกว่าหรือน้อยกว่า 5 จำนวน โดยเพียงแค่ปรับจำนวนตัวแปรและแก้ไขส่วนประมวลผลตามต้องการ
3. สามารถใช้ตัวแปรอื่นแทน num1, num2, num3, num4, และ num5 ได้หรือไม่?
ใช่ คุณสามารถใช้ชื่อตัวแปรอื่นแทน num1, num2, num3, num4, และ num5 ได้ตามต้องการ อย่างไรก็ตาม ควรเลือกใช้ชื่อตัวแปรที่ใช้งานง่ายและสื่อความหมายได้ชัดเจน
4. หากผู้ใช้ป้อนข้อความหรือตัวอักษรแทนตัวเลข โปรแกรมจะทำงานอย่างไร?
เมื่อผู้ใช้ป้อนข้อความหรือตัวอักษรแทนตัวเลข โปรแกรมจะเกิดข้อผิดพลาดเนื่องจากฟังก์ชัน int() ไม่สามารถแปลงข้อความหรือตัวอักษรเป็นจำนวนเต็มได้ ทำให้การคำนวณไม่สามารถทำได้ถูกต้อง ในกรณีเช่นนี้ โปรแกรมจะส่งออกข้อผิดพลาดและหยุดทำงาน
5. มีวิธีการป้องกันผู้ใช้ป้อนข้อความหรือตัวอักษรแทนตัวเลขได้หรือไม่?
ใช่ คุณสามารถเพิ่มเงื่อนไขการตรวจสอบชนิดของข้อมูลก่อนที่จะทำการแปลงค่าได้ โดยใช้ฟังก์ชัน isdigit() เพื่อตรวจสอบว่าข้อมูลที่ได้รับเป็นตัวเลขหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ คุณสามารถแจ้งข้อผิดพลาดกับผู้ใช้และให้พื้นที่สำหรับป้อนค่าใหม่
เขียนโปรแกรมรับค่าตัวเลข 3 จํานวน
บทนำ:
การเขียนโปรแกรมเป็นทักษะที่สำคัญสำหรับผู้ที่สนใจในการพัฒนาซอฟต์แวร์หรือต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเนื้อหานี้เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมที่สามารถรับค่าตัวเลข 3 จำนวนได้ โปรแกรมดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถป้อนข้อมูลค่าตัวเลข 3 จำนวนและให้คำนวณผลรวมของตัวเลขดังกล่าวได้
วิธีการเขียนโปรแกรม:
เริ่มต้นด้วยการประกาศตัวแปร 3 ตัว เพื่อเก็บค่าที่ผู้ใช้ป้อนเข้ามาในโปรแกรม ในภาษาไพธอน เราสามารถประกาศตัวแปรได้โดยไม่ต้องระบุชนิดข้อมูลของตัวแปร ดังนั้นประกาศตัวแปร 3 ตัวโดยใส่ชื่อตัวแปรตามด้วยเครื่องหมายเท่ากับ (=) และกำหนดค่าเริ่มต้นเป็น 0
ตัวอย่าง:
“`
number1 = 0
number2 = 0
number3 = 0
“`
หลังจากนั้นให้ใช้ฟังก์ชัน `input()` เพื่อรับค่าตัวเลขที่ผู้ใช้ป้อนเข้ามา โดยกำหนดให้ผลลัพธ์ของฟังก์ชัน `input()` กำหนดให้เก็บไว้ในตัวแปรที่เรากำหนดไว้
ตัวอย่าง:
“`
number1 = input(“ป้อนตัวเลขที่ 1: “)
number2 = input(“ป้อนตัวเลขที่ 2: “)
number3 = input(“ป้อนตัวเลขที่ 3: “)
“`
คำสั่งด้านบนจะแสดงข้อความที่บอกให้ผู้ใช้ป้อนตัวเลขที่ 1, 2 และ 3 ตามลำดับ และรับค่าที่ผู้ใช้ป้อนมาเก็บไว้ในตัวแปรเหล่านั้น
หลังจากนั้นให้แปลงค่าตัวแปรที่เป็นข้อความให้เป็นตัวเลข เพื่อที่จะสามารถนำมาใช้ในการคำนวณต่อได้ โดยใช้ฟังก์ชัน `int()` เพื่อแปลงชนิดข้อมูลของตัวแปร
ตัวอย่าง:
“`
number1 = int(number1)
number2 = int(number2)
number3 = int(number3)
“`
โดยตอนนี้เราสามารถมีตัวแปรที่มีค่าเป็นตัวเลขแล้ว สามารถใช้ตัวแปรเหล่านั้นในการดำเนินการคำนวณต่อไปได้
เพื่อความรวดเร็วในการคำนวณผลรวม โปรแกรมสามารถใช้ตัวแปร `sum` เพื่อเก็บผลรวมระหว่างรันลูปการรับค่าตัวเลข 3 จำนวน
ตัวอย่าง:
“`
sum = number1 + number2 + number3
“`
เมื่อเรานำตัวแปร `number1`, `number2` และ `number3` มาบวกกันแล้วเก็บในตัวแปร `sum` เราก็สามารถแสดงผลรวมออกทางหน้าจอได้โดยใช้ฟังก์ชัน `print()`
ตัวอย่าง:
“`
print(“ผลรวมของตัวเลขทั้ง 3 จำนวนคือ: “, sum)
“`
โปรแกรมดังกล่าวจะแสดงข้อความ “ผลรวมของตัวเลขทั้ง 3 จำนวนคือ: ” ตามด้วยผลรวมของตัวเลข 3 จำนวนที่รับเข้ามา
FAQs (คำถามที่พบบ่อย):
คำถาม 1: โปรแกรมนี้ทำงานอย่างไร?
คำตอบ: โปรแกรมจะใช้งานร่วมกับผู้ใช้โดยแสดงข้อความในการร้องขอให้ผู้ใช้ป้อนค่าตัวเลข 3 จำนวนจากนั้นนำค่าเหล่านั้นมาบวกกันเพื่อคำนวณผลรวม
คำถาม 2: โปรแกรมจำเป็นต้องรับเฉพาะตัวเลขเท่านั้นหรือไม่?
คำตอบ: เป็นจริงว่าโปรแกรมจะคัดกรองค่าป้อนเพื่อให้เป็นตัวเลขเท่านั้น หากผู้ใช้ป้อนข้อมูลที่ไม่ใช่ตัวเลข เช่น ตัวอักษร โปรแกรมจะแสดงข้อความผิดพลาดและขอให้ผู้ใช้ป้อนตัวเลขอีกครั้ง
คำถาม 3: สามารถเพิ่มหรือลดจำนวนตัวเลขที่ให้โปรแกรมรับได้หรือไม่?
คำตอบ: ใช่ โปรแกรมแสดงตัวอย่างต่อไปนี้เป็นตัวอย่างของการเพิ่มหรือลดจำนวนตัวเลขที่รับค่า
“`
number1 = input(“ป้อนตัวเลขที่ 1: “)
number2 = input(“ป้อนตัวเลขที่ 2: “)
number3 = input(“ป้อนตัวเลขที่ 3: “)
number4 = input(“ป้อนตัวเลขที่ 4: “)
number1 = int(number1)
number2 = int(number2)
number3 = int(number3)
number4 = int(number4)
sum = number1 + number2 + number3 + number4
print(“ผลรวมของตัวเลขทั้ง 4 จำนวนคือ: “, sum)
“`
ในตัวอย่างข้างต้นเราเพิ่มตัวแปร `number4` และนำมาบวกกับตัวแปร `sum` เพื่อคำนวณผลรวมของตัวเลขทั้ง 4 จำนวน
เขียนโปรแกรมรับค่าตัวเลข 2 จํานวน C++
โปรแกรมที่เราจะเขียนในบทความนี้เป็นโปรแกรมที่ใช้สำหรับรับค่าตัวเลข 2 จำนวนจากผู้ใช้งาน และทำการแสดงผลลัพธ์ออกทางหน้าจอ โดยเราจะใช้ภาษา C++ ในการเขียนโปรแกรม
การทำงานของโปรแกรม
1. โปรแกรมจะแสดงข้อความที่บอกให้ผู้ใช้งานกรอกตัวเลขที่ต้องการ
2. ผู้ใช้งานจะกรอกตัวเลขแรก
3. โปรแกรมจะขอให้ผู้ใช้งานกรอกตัวเลขที่สอง
4. โปรแกรมจะทำการคำนวณผลรวมของตัวเลขทั้งสอง
5. โปรแกรมจะแสดงผลลัพธ์ออกทางหน้าจอ
โค้ดโปรแกรม
“`cpp
#include
using namespace std;
int main() {
int num1, num2, sum;
cout << "กรุณากรอกตัวเลขที่อยากบวกกัน: "; cin >> num1;
cout << "กรุณากรอกตัวเลขที่สอง: "; cin >> num2;
sum = num1 + num2;
cout << "ผลรวมของตัวเลขทั้งสองคือ: " << sum << endl;
return 0;
}
```
การแก้ไข หรือตรวจสอบข้อผิดพลาด
ในกรณีที่ผู้ใช้งานป้อนค่าที่ไม่ใช่ตัวเลขเข้ามา โปรแกรมจะให้ข้อความผิดพลาดขึ้นมาแสดง ดังตัวอย่างนี้
```cpp
#include
using namespace std;
int main() {
int num1, num2, sum;
cout << "กรุณากรอกตัวเลขที่อยากบวกกัน: "; cin >> num1;
if(cin.fail()) {
cout << "ค่าที่คุณป้อนไม่ใช่ตัวเลข" << endl;
return 0;
}
cout << "กรุณากรอกตัวเลขที่สอง: ";
cin >> num2;
if(cin.fail()) {
cout << "ค่าที่คุณป้อนไม่ใช่ตัวเลข" << endl;
return 0;
}
sum = num1 + num2;
cout << "ผลรวมของตัวเลขทั้งสองคือ: " << sum << endl;
return 0;
}
```
FAQs (คำถามที่พบบ่อย)
1. โปรแกรมสามารถรับตัวเลขที่มีทศนิยมได้หรือไม่?
- ในโปรแกรมนี้ เราใช้ตัวแปรชนิด integer (int) ซึ่งสามารถเก็บค่าเฉพาะจำนวนเต็มเท่านั้น ถ้าผู้ใช้ป้อนตัวเลขที่มีทศนิยม เช่น 3.14 โปรแกรมจะทำการตัดทศนิยมทิ้งและใช้เฉพาะส่วนที่เป็นจำนวนเต็ม
2. โปรแกรมจะทำการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ผู้ใช้ป้อนไหม?
- ในโปรแกรมนี้ จะไม่มีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ผู้ใช้ป้อนเข้ามา เช่น การตรวจสอบว่าเป็นตัวเลขที่มีทศนิยมหรือไม่ ดังนั้น หากผู้ใช้ป้อนข้อมูลที่ไม่ใช่ตัวเลข เช่น ตัวอักษรหรือสัญลักษณ์ โปรแกรมจะแสดงข้อความผิดพลาดและสิ้นสุดการทำงาน
3. โปรแกรมสามารถทำการบวกเลขกันได้หรือไม่?
- ใช่ โปรแกรมนี้จะรับค่าตัวเลขสองจำนวน และทำการบวกกัน โดยใช้ตัวแปร sum เพื่อเก็บผลรวมของตัวเลขทั้งสอง ในท้ายที่สุด โปรแกรมจะแสดงผลลัพธ์ออกทางหน้าจอ
4. ทำไมเราใช้คำสั่ง using namespace std; ?
- เราใช้คำสั่งนี้เพื่อเป็นการสั่งให้โปรแกรมใช้งานไลบรารีที่มีชื่อว่า std (Standard Library) โดย std มีฟังก์ชันมากมายที่เกี่ยวข้องกับการทำงานร่วมกับข้อมูลที่เป็นลำดับ เช่น การรับค่าจากผู้ใช้งาน (cin) และการแสดงผลลัพธ์ออกทางหน้าจอ (cout) ซึ่งคำสั่ง using namespace std; จะช่วยให้เราเขียนโค้ดได้สั้นลง เพราะไม่ต้องระบุ std:: ทุกครั้งที่เรียกใช้งานฟังก์ชันใน std
5. สามารถเพิ่มฟีเจอร์ให้กับโปรแกรมนี้ได้อย่างไร?
- แน่นอนว่าสามารถเพิ่มฟีเจอร์มากมายให้กับโปรแกรมนี้ได้ ตัวอย่างเช่น การคูณ, การหาร หรือการทำงานกับตัวเลขที่มีทศนิยม การเพิ่มฟีเจอร์ให้กับโปรแกรมนั้นจะขึ้นอยู่กับความต้องการและความชำนาญในการเขียนโปรแกรมของผู้พัฒนา
สรุป
บทความนี้อธิบายการเขียนโปรแกรมรับค่าตัวเลข 2 จำนวนในภาษา C++ โดยในตัวอย่างโปรแกรมที่เราใช้ จะมีการแสดงข้อความของผู้ใช้งานให้กรอกตัวเลข และทำการบวกเลขสองจำนวนกัน โดยค่าผลลัพธ์จะแสดงออกทางหน้าจอ นอกจากนี้ ยังรวมถึงส่วนของการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ผู้ใช้ป้อนเข้ามา ในกรณีที่เป็นอินพุตที่ไม่ถูกต้อง
มี 13 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ เขียนโปรแกรมภาษาซี รับค่าตัวเลข.







![ภาษาซี - การเขียนโปรแกรมหาค่ามีมากที่สุด [Biggest Number] - YouTube ภาษาซี - การเขียนโปรแกรมหาค่ามีมากที่สุด [Biggest Number] - Youtube](https://i.ytimg.com/vi/RP_GMUeMFTo/maxresdefault.jpg)








![C]เขียนโปรแกรมแสดงชื่อและน้ำหนัก min และ max ผิดตรงไหน ใครรู้ช่วยบอกที - Pantip C]เขียนโปรแกรมแสดงชื่อและน้ำหนัก Min และ Max ผิดตรงไหน ใครรู้ช่วยบอกที - Pantip](https://f.ptcdn.info/104/031/000/1430985539-1111-o.png)













![เรียงลำดับ พร้อมแสดงชื่อ [ภาษาซี] - Pantip เรียงลำดับ พร้อมแสดงชื่อ [ภาษาซี] - Pantip](https://f.ptcdn.info/548/053/000/ow2sgc86l8aiLFX54TY-o.png)

















ลิงค์บทความ: เขียนโปรแกรมภาษาซี รับค่าตัวเลข.
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโพสต์หัวข้อนี้ เขียนโปรแกรมภาษาซี รับค่าตัวเลข.
- [ภาษา C]รับค่าตัวเลข แล้วนำมาบวกกัน ยังไงครับ
- ภาษาซี (C/C++) กับ โจทย์ทั่วไป (1) รับค่าตัวเลขใดก็ได้ … – Mindphp
- คำสั่งรับค่าทางคีย์บอร์ด – การเขียนโปรแกรมภาษาซี – Google Sites
- การหาค่าเฉลี่ยของตัวเลข ในภาษา C และ C++ – MarcusCode
- #include
main() { คาสั่งต่างๆ; }
ดูเพิ่มเติม: https://tuekhangduong.com/category/television