ภาษา C If
สอนภาษาซี C: การใช้คำสั่ง If … Else เพื่อตรวจสอบเงื่อนไข (ตอนที่ 1)
คำสำคัญที่ผู้ใช้ค้นหา: ภาษา c if ตัวอย่าง โจทย์ if-else, If else if คือ, แบบฝึกหัด คำสั่ง if, คําสั่ง if excel, คําสั่ง if else, คําสั่ง if else if, if else if ภาษาซี, If else C คือ
รูปภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ ภาษา c if

หมวดหมู่: Top 81 ภาษา C If
ดูเพิ่มเติมที่นี่: tuekhangduong.com
ตัวอย่าง โจทย์ If-Else
การใช้งานคำสั่ง if-else เป็นส่วนสำคัญในการเขียนโปรแกรม เนื่องจากสามารถช่วยให้โปรแกรมสามารถทำงานแบบเลือกสรรค์ได้ตามเงื่อนไขที่กำหนดได้อย่างยืดหยุ่น ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงตัวอย่างของโจทย์ if-else และการใช้งานในภาษาไทย
ตัวอย่างโจทย์ if-else
คำสั่ง if-else สามารถใช้ในการตรวจสอบเงื่อนไขและทำงานตามที่เราต้องการได้ ตัวอย่างเช่น เราสามารถเขียนโปรแกรมแสดงผลข้อความตามเงื่อนไขที่กำหนดได้ดังนี้
“`python
score = 80
if score >= 90:
print(“คุณได้เกรด A”)
elif score >= 80:
print(“คุณได้เกรด B”)
else:
print(“คุณได้เกรด C หรือต่ำกว่า”)
“`
ในตัวอย่างข้างต้น ถ้าค่า score เท่ากับหรือมากกว่า 90 โปรแกรมจะแสดงผลลัพธ์ “คุณได้เกรด A” ถ้าค่า score เท่ากับหรือมากกว่า 80 แต่น้อยกว่า 90 โปรแกรมจะแสดงผลลัพธ์ “คุณได้เกรด B” และในกรณีที่ไม่เข้าเงื่อนไขใดเลย โปรแกรมจะแสดงผลลัพธ์ “คุณได้เกรด C หรือต่ำกว่า”
การใช้งาน if-else ในภาษาไทย
เราสามารถใช้งาน if-else ในภาษาไทยได้เช่นกัน โดยใช้คำสั่งเป็นภาษาไทยแทน ตัวอย่างเช่น เราสามารถเขียนโปรแกรมเพื่อตรวจสอบว่าค่าที่รับเข้ามาเป็นเลขคี่หรือเลขคู่ได้ดังนี้
“`python
number = int(input(“ใส่ตัวเลข: “))
if number % 2 == 0:
print(“เลขนี้เป็นเลขคู่”)
else:
print(“เลขนี้เป็นเลขคี่”)
“`
ในตัวอย่างด้านบน เมื่อเรารับค่าตัวเลขจากผู้ใช้ โปรแกรมจะตรวจสอบว่าค่าที่รับเข้ามาหารด้วย 2 ลงตัวหรือไม่ หากหารลงตัว โปรแกรมจะแสดงผลลัพธ์ “เลขนี้เป็นเลขคู่” ถ้าไม่ลงตัว โปรแกรมจะแสดงผลลัพธ์ “เลขนี้เป็นเลขคี่”
FAQs (คำถามที่พบบ่อย)
คำถาม: สามารถใช้ if-else ในการเช็คหลายเงื่อนไขพร้อมกันได้หรือไม่?
คำตอบ: ใช่ เราสามารถใช้ if-else ในการเช็คหลายเงื่อนไขพร้อมกันได้โดยใช้คำสั่ง elif หรือ “else if” เพื่อกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติม
ตัวอย่าง:
“`python
score = 75
if score >= 90:
print(“คุณได้เกรด A”)
elif score >= 80:
print(“คุณได้เกรด B”)
elif score >= 70:
print(“คุณได้เกรด C”)
else:
print(“คุณได้เกรด D หรือต่ำกว่า”)
“`
ในตัวอย่างด้านบน เรากำหนดเงื่อนไขสำหรับเกรด A, B, C และ D ตามลำดับ ตัวโปรแกรมจะทำการเช็คเงื่อนไขตามลำดับจนกว่าจะเจอเงื่อนไขที่เป็นจริง แล้วทำงานตามคำสั่งที่เกี่ยวข้อง
คำถาม: สามารถใช้ if-else ไม่มี else ได้หรือไม่?
คำตอบ: ใช่ หากเราไม่ต้องการการกระทำสำหรับกรณีที่ไม่เข้าเงื่อนไขใดเลย เราสามารถใช้คำสั่ง if-else โดยไม่ต้องมีส่วนของ else
ตัวอย่าง:
“`python
number = int(input(“ใส่ตัวเลข: “))
if number % 2 == 0:
print(“เลขนี้เป็นเลขคู่”)
“`
ในตัวอย่างด้านบน หากตัวเลขที่รับเข้ามาหารด้วย 2 ลงตัว โปรแกรมจะแสดงผลลัพธ์ “เลขนี้เป็นเลขคู่” แต่ถ้าหารไม่ลงตัว โปรแกรมจะไม่มีการแสดงผลใดๆ
คำถาม: การใช้งาน if-else ในภาษาไทยเหมือนกับการใช้งานในภาษาอังกฤษหรือไม่?
คำตอบ: ใช่ การใช้งาน if-else ในภาษาไทยและภาษาอังกฤษมีลักษณะเดียวกัน แต่เราต้องใช้คำสั่งในภาษาไทยเพื่อให้โปรแกรมทำงานได้ถูกต้อง
สรุป
การใช้งาน if-else เป็นส่วนสำคัญในการเขียนโปรแกรมเพื่อทำงานเลือกสรรค์ตามเงื่อนไขที่กำหนด การใช้งานคำสั่ง if-else ในภาษาไทยไม่ต่างจากการใช้งานในภาษาอังกฤษ โดยเราสามารถใช้งานภาษาไทยเพื่อให้โปรแกรมทำงานตามที่เราต้องการ
ในบทความนี้เราได้พูดถึงตัวอย่างของโจทย์ if-else และการใช้งานในภาษาไทย ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้ได้กับหลายกรณี เช่น การตรวจสอบคะแนน เช็คเงื่อนไขต่าง ๆ และการทำงานตามเงื่อนไขที่กำหนด
FAQs (คำถามที่พบบ่อย)
คำถาม: สามารถใช้ if-else ในการเช็คหลายเงื่อนไขพร้อมกันได้หรือไม่?
คำตอบ: ใช่ เราสามารถใช้ if-else ในการเช็คหลายเงื่อนไขพร้อมกันได้โดยใช้คำสั่ง elif หรือ “else if” เพื่อกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติม
คำถาม: สามารถใช้ if-else ไม่มี else ได้หรือไม่?
คำตอบ: ใช่ หากเราไม่ต้องการการกระทำสำหรับกรณีที่ไม่เข้าเงื่อนไขใดเลย เราสามารถใช้คำสั่ง if-else โดยไม่ต้องมีส่วนของ else
คำถาม: การใช้งาน if-else ในภาษาไทยเหมือนกับการใช้งานในภาษาอังกฤษหรือไม่?
คำตอบ: ใช่ การใช้งาน if-else ในภาษาไทยและภาษาอังกฤษมีลักษณะเดียวกัน แต่เราต้องใช้คำสั่งในภาษาไทยเพื่อให้โปรแกรมทำงานได้ถูกต้อง
If Else If คือ
ในการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ มีการใช้คำสั่งหลายอย่างที่จำเป็นต้องใช้เมื่อต้องการให้โปรแกรมทำงานตามเงื่อนไขเฉพาะ และหนึ่งในคำสั่งที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายคือ “if else if” หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “else if” ซึ่งใช้ในการตรวจสอบและเลือกทำงานตามเงื่อนไขที่มีหลายเงื่อนไขอย่างสม่ำเสมอ
ในภาษาไทย “if else if” คือกลุ่มคำสั่งที่ถูกออกแบบมาเพื่อตรวจสอบตามเงื่อนไข โดยโครงสร้างของ “if else if” จะเป็นดังนี้:
“`
if (เงื่อนไขที่ 1) {
คำสั่งที่ 1;
} else if (เงื่อนไขที่ 2) {
คำสั่งที่ 2;
} else if (เงื่อนไขที่ 3) {
คำสั่งที่ 3;
} else if (เงื่อนไขอื่น ๆ) {
คำสั่งที่ 4;
} else {
คำสั่งที่ใช้ในกรณีที่ไม่ตรงกับเงื่อนไขใด ๆ;
}
“`
ในตัวอย่างข้างต้น โปรแกรมจะตรวจสอบเงื่อนไขที่ 1 ก่อน ถ้าเงื่อนไขที่ 1 เป็นจริง โปรแกรมจะทำงานตามคำสั่งที่ 1 และจะไม่ทำงานในเงื่อนไขอื่นทั้งหมด แต่ถ้าเงื่อนไขที่ 1 เป็นเท็จ โปรแกรมจะตรวจสอบเงื่อนไขที่ 2 และประมวลผลตามคำสั่งที่ 2 หากเงื่อนไขที่ 2 เป็นจริง โปรแกรมจะไม่ตรวจสอบเงื่อนไขที่เหลือและทำงานตามคำสั่งที่ 2 เท่านั้นในเงื่อนไข “else if” แต่ถ้าทุกเงื่อนไขไม่ตรง โปรแกรมจะประมวลผลตามคำสั่งที่เขียนหลังคำสั่ง “else” หรือมีค่าเริ่มต้นให้ในกรณีที่ไม่ตรงกับเงื่อนไขใด ๆ
สำหรับโปรแกรมที่มีหลายเงื่อนไขเช่นนี้ “else if” จะมีประโยชน์อย่างมาก เนื่องจากว่าแต่ละเงื่อนไขสามารถทดสอบแยกกันได้ และโปรแกรมจะทำงานตามเงื่อนไขแรกที่เป็นจริงตามลำดับ เช่นถ้ามี “else if” หลายเงื่อนไขและเงื่อนไขที่ 1 และ 2 เป็นจริง เงื่อนไขที่เป็นจริงแรก (เงื่อนไขที่ 1) จะทำงานด้วยคำสั่งที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเงื่อนไขอื่น ๆ จะไม่ถูกตรวจสอบหรือทำงานเลย
ตัวอย่างการใช้งานของ “if else if” ในภาษาไทย:
“`
int score = 85;
if (score >= 90) {
ประเมินผล: “ดีมาก”;
} else if (score >= 80) {
ประเมินผล: “ดี”;
} else if (score >= 70) {
ประเมินผล: “ปานกลาง”;
} else if (score >= 60) {
ประเมินผล: “พอใช้”;
} else {
ประเมินผล: “ต่ำกว่ามาตรฐาน”;
}
“`
ในตัวอย่างข้างต้น โปรแกรมสามารถประเมินบุคลิกภาพของผู้เรียนได้ตามคะแนนที่ได้รับ โดยถ้าคะแนนมากกว่าหรือเท่ากับ 90 จะได้ผลการประเมินว่า “ดีมาก” แต่ถ้าคะแนนน้อยกว่า 90 และมากกว่าหรือเท่ากับ 80 จะได้ผลการประเมินว่า “ดี” และต่อไปเรื่อย ๆ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ “if else if”:
คำถาม 1: สารมารถนำเอา “if else if” มาใช้งานในโปรแกรมทุกภาษาได้หรือไม่?
คำตอบ: ใช่ “if else if” เป็นคำสั่งที่มีให้ใช้งานในภาษาโปรแกรมหลายภาษาอย่างเช่น C, C++, Java, Python, JavaScript และอื่น ๆ แต่ก็อาจมีการเขียนแบบอื่น ๆ ที่ใช้เพื่ออนุมานในรูปแบบคล้ายคลึงกันกับ “if else if” ในภาษาต่าง ๆ
คำถาม 2: หากมีเงื่อนไขหลายเงื่อนไขใน “if else if” อย่างไรที่จะทำให้โปรแกรมทำงานได้อย่างถูกต้อง?
คำตอบ: เงื่อนไขใน “if else if” ต้องถูกเรียงลำดับให้ถูกต้อง เพราะถ้าเงื่อนไขที่เป็นจริงอยู่ด้านบนก่อน โปรแกรมจะไม่ตรวจสอบเงื่อนไขที่เหลือ ดังนั้นหากมีเงื่อนไขมากกว่าหนึ่ง ควรจะเรียงลำดับเงื่อนไขให้ถูกต้องเพื่อป้องกันข้อผิดพลาด
คำถาม 3: สามารถใช้คำสั่ง “else” โดยไม่ต้องมีเงื่อนไขอื่นใน “if else if” หรือไม่?
คำตอบ: ใช่ เราสามารถใช้คำสั่ง “else” เพื่อระบุการทำงานในกรณีที่ไม่ตรงกับเงื่อนไขใด ๆ ใน “if else if” ได้ ซึ่ง “else” สามารถใช้ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีค่าเริ่มต้นให้หรือมีการทดสอบเงื่อนไขใด ๆ
คำถาม 4: มีวิธีการเขียนอื่นที่ใช้ทดสอบและเลือกทำงานตามเงื่อนไขแบบหลายเงื่อนไขนอกจาก “if else if” หรือไม่?
คำตอบ: ใช่ นอกจาก “if else if” เรายังสามารถใช้ “switch case” ในภาษาที่รองรับ โดยโครงสร้างของ “switch case” จะช่วยในการทดสอบและเลือกการทำงานตามค่าที่กำหนดได้อีกประเภทหนึ่ง
แบบฝึกหัด คำสั่ง If
การเขียนโปรแกรมเป็นศักยภาพที่มีประโยชน์อย่างมากในยุคปัจจุบัน ภาษาโปรแกรมเมอร์หลายคนผู้เริ่มต้นนั้นตั้งค่าจากความรู้พื้นฐาน เช่นการใช้คำสั่ง if อย่างถูกต้องและเหมาะสม ถือเป็นหน้าที่สำคัญที่ต้องเรียนรู้เพื่อให้รู้จักกับกระบวนการตัดสินใจที่อาจเกิดขึ้นในสคริปต์ของคุณ ในบทความนี้เราจะสำรวจและอธิบายคำสั่ง if ในภาษาไทยอย่างละเอียด พร้อมทั้งแนะนำแบบฝึกหัดเพื่อเสริมความเข้าใจในเรื่องนี้
คำสั่ง if ในภาษาโปรแกรมมิ่งเป็นวิธีการเลือกปฏิบัติการต่าง ๆ ที่คาดหวังว่าคำสั่งโปรแกรมจะต้องดำเนินการก็ต่อเมื่อเงื่อนไขที่กำหนดเป็นจริง และจะทำซ้ำกับการตรวจสอบของเงื่อนไขนั้น เพื่อให้หลายๆ คำสั่งสามารถทำงานได้โดยบังคับอย่างยืดหยุ่น การใช้งานคำสั่ง if เป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาโปรแกรมเรียกใช้ข้อมูลลักษณะบางอย่างพร้อมกับตัดสินใจตามเส้นทางที่ถูกต้อง
โครงสร้างของ if มักมีรูปแบบเป็นตัวเลือกก่อนๆ ถ้าเงื่อนไขจริงจะดำเนินการคำสั่งที่ติดตาม แต่ถ้าเงื่อนไขไม่เป็นจริงจะข้ามคำสั่งที่ตามมาใน Block ของ if แล้วดำเนินการคำสั่งที่อ่านคือคำสั่งที่เกี่ยวกับ else ในรูปแบบจริง ๆ คำสั่ง if-else ต้องวางไว้ด้านล่างของรูปแบบ if
นี่คือโครงสร้างของคำสั่ง if ในภาษาไทย:
“`
ถ้า <เงื่อนไข> จริง:
คำสั่งที่ต้องทำเมื่อเงื่อนไขเป็นจริง
else:
คำสั่งที่ต้องทำเมื่อเงื่อนไขไม่เป็นจริง
“`
ตัวอย่างการใช้งานคำสั่ง if ในภาษาไทย:
“`python
ให้ อายุ = 18
ถ้า อายุ >= 18:
พิมพ์(“คุณสามารถทำใบขับขี่ได้”)
else:
พิมพ์(“คุณยังไม่สามารถทำใบขับขี่ได้”)
“`
ในตัวอย่างนี้ ถ้าเงื่อนไข อายุ >= 18 เป็นจริง โปรแกรมจะแสดงข้อความ “คุณสามารถทำใบขับขี่ได้” แต่ถ้าเงื่อนไขไม่เป็นจริง โปรแกรมจะแสดงข้อความ “คุณยังไม่สามารถทำใบขับขี่ได้”
แบบฝึกหัดหลักในการอธิบายคำสั่ง if:
1. ให้เขียนโปรแกรมที่ตรวจสอบว่าตัวเลขที่กำหนดให้เป็นบวกหรือลบ
“`python
ให้ ตัวเลข = 5
ถ้า ตัวเลข >= 0:
พิมพ์(“ตัวเลขเป็นบวก”)
else:
พิมพ์(“ตัวเลขเป็นลบ”)
“`
2. ให้เขียนโปรแกรมที่ตรวจสอบว่าผู้ใช้งานเป็นแบบผู้ให้คำสั่งในระบบหรือไม่
“`python
ให้ ระดับสิทธิ์ = “admin”
ถ้า ระดับสิทธิ์ == “admin”:
พิมพ์(“คุณเป็นแบบผู้ให้คำสั่งในระบบ”)
else:
พิมพ์(“คุณไม่ใช่แบบผู้ให้คำสั่งในระบบ”)
“`
3. ให้เขียนโปรแกรมที่ตรวจสอบว่าจำนวนที่กำหนดให้เป็นจำนวนคู่หรือคี่
“`python
ให้ จำนวน = 7
ถ้า จำนวน % 2 == 0:
พิมพ์(“จำนวนเป็นจำนวนคู่”)
else:
พิมพ์(“จำนวนเป็นจำนวนคี่”)
“`
โดยการที่มีคำสั่ง if-else ในการเขียนโปรแกรมมิ่ง จะช่วยให้โปรแกรมสามารถทำงานอย่างยืดหยุ่นและดัดแปลงได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบข้อมูลที่ซับซ้อนหรือกรณีพิเศษตามสถานการณ์ เป็นเครื่องมือที่น่าไว้วางใจสำหรับผู้เริ่มต้นและมืออาชีพ
คำถามที่พบบ่อย:
1. คำสั่ง if-else ใช้ทำอะไรได้บ้าง?
คำสั่ง if-else ใช้ในการตรวจสอบเงื่อนไขและตัดสินใจในการดำเนินการต่างๆ ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด โดยคำสั่งที่อยู่ภายใต้ if จะถูกดำเนินการเมื่อเงื่อนไขเป็นจริง และคำสั่งที่อยู่ภายใต้ else จะถูกดำเนินการเมื่อเงื่อนไขไม่เป็นจริง
2. ถ้าต้องการตรวจสอบหลายๆ เงื่อนไขในระดับเดียวกันจะใช้คำสั่งอย่างไร?
ในกรณีที่ต้องการตรวจสอบหลายๆ เงื่อนไขในระดับเดียวกัน สามารถใช้คำสั่ง if-elif-else ในการตรวจสอบได้ เช่น:
“`python
ให้ จำนวน = 5
ถ้า จำนวน > 0:
พิมพ์(“จำนวนเป็นบวก”)
elif จำนวน < 0:
พิมพ์("จำนวนเป็นลบ")
else:
พิมพ์("จำนวนเป็นศูนย์")
```
3. สามารถใช้คำสั่ง if ภายในคำสั่งอื่นได้หรือไม่?
ใช่ สามารถใช้คำสั่ง if ภายในคำสั่งอื่นได้ เช่น ในกรณีที่ต้องการตรวจสอบเงื่อนไขภายในลูปการทำงาน เพื่อตัดสินใจว่าจะดำเนินการต่อหรือไม่โดยอิงตามเงื่อนไขที่กำหนด
4. คำสั่ง else เป็นจำเป็นในการใช้งานคำสั่ง if หรือไม่?
คำสั่ง else ไม่จำเป็นต้องใช้กับคำสั่ง if การใช้หรือไม่ใช้ขึ้นอยู่กับลักษณะของการตัดสินใจที่ต้องการ หากคุณต้องการให้โค้ดดำเนินการถ้าเงื่อนไขใน if เป็นเท็จหรือไม่ได้มีส่วนประกันความถูกต้องใด ๆ คำสั่ง else สามารถละเว้นได้
5. คำสั่ง if สามารถใช้เปรียบเทียบตัวเลขทศนิยมได้หรือไม่?
ได้ คำสั่ง if สามารถใช้เปรียบเทียบตัวเลขทศนิยมได้เช่นเดียวกับตัวเลขจำนวนเต็ม แต่จำเป็นต้องใช้เครื่องหมายที่เหมาะสมเพื่อเปรียบเทียบ เช่น >, <, >=, <=, ==, หรือ !=
ในสรุปแล้ว คำสั่ง if เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ควรสานต่อภายในรายการแบบฝึกหัดในสคริปต์ของคุณ ความเข้าใจและการปฏิบัติตามประมวลผลของการเลือกตัดสินใจนั้น เป็นที่ต้องการสำหรับผู้เขียนโค้ดทุกคนที่ต้องการสร้างและควบคุมลำดับการดำเนินงานของโปรแกรมของตน
พบ 24 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ ภาษา c if.





























![ภาษาซี - การเขียนโปรแกรมหาค่ามีมากที่สุด [Biggest Number] - YouTube ภาษาซี - การเขียนโปรแกรมหาค่ามีมากที่สุด [Biggest Number] - Youtube](https://i.ytimg.com/vi/RP_GMUeMFTo/maxresdefault.jpg)















ลิงค์บทความ: ภาษา c if.
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโพสต์หัวข้อนี้ ภาษา c if.
- if(เงื่อนไข){ คําสั่งเมื่อเงื่อนไขเป นจริง } == เท !
- การใช้งานคำสั่ง if else ในภาษา C++ – สอนเขียนโปรแกรม C++
- คำสั่ง if และ if-else – บทเรียนออนไลน์การเขียนโปรแกรมภาษา C
- หน่วยที่ 7 การตรวจสอบเงื่อนไข และเลือกการทางานของโปรแกรม
- คำสั่ง if และ switch – ครูไอที
ดูเพิ่มเติม: tuekhangduong.com/category/television